พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
ปลาตะเพียนหลวงพ...
ปลาตะเพียนหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
เน้นในด้านโภคทรัพย์ คือค้าขายเจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา อยู่เย็นเป็นสุข เมตตามหานิยม เมื่อสมัยก่อนทุกบ้านเรือนร้านค้าส่วนมากจะมีปลาตะเพียนของหลวงพ่อจงติดอยู่ แทบทุกบ้าน ปัจจุบันหาชมได้ยากแล้วครับ
ปลาตะเพียน ตามความเชื่อแต่โบราณเกี่ยวกับเครื่องรางที่บูชาแล้วให้ผลเรื่องการค้า ขาย โชคลาภ เงินทอง นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด อาทิ ไซดักทรัพย์ กุมารทอง นางกวัก ซึ่งปลาตะเพียนนั้นก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แต่การกำเนิดของปลาตะเพียนว่าเกิดขึ้นเมื่อใดยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่เชื่อกันว่ามีมาแล้วหลายร้อยปีแล้วเพราะมีการค้นพบปลาตะเพียนโบราณที่ทำ ด้วยวัสดุหลากหลายชนิด อาทิ ผ้า ไม้มงคล ไม้จักสาน โลหะ และหลากหลายขนาดขึ้นอยู่กับครูบาอาจารย์แต่ละท่านที่จะจัดสร้างขึ้นในวาระ นั้น ๆ
ส่วนในเรื่องความนิยมเครื่องรางที่เป็นปลาตะเพียนนั้นจะไม่หวือหวาเหมือน เครื่องรางประเภทอื่น ๆ เนื่องจากเป็นเครื่องรางที่ดูผิวเผินแล้วเหมือนกับไม่มีอะไร ไม่มีฤทธิ์หวือวา แต่ในความเป็นจริงปลาตะเพียนจะมีฤทธิ์มีเดชแบบค่อยเป็นค่อยไปดังภาษิตที่ว่า “น้ำซึมบ่อทราย” แล้วยังให้พุทธคุณในเรื่องความร่มเย็นเป็นสุข ช่วยพยุงและเสริมฐานะค่อยเป็นค่อยไปแก่ผู้บูชาด้วย ซึ่งหาได้ยากในหมู่เครื่องรางด้วยกัน แต่หากจะสืบเสาะเลาะลึกลง
ในความเชื่อเรื่องการกำเนิดของปลาตะเพียนนั้นก็ จะมีความเชื่อที่แตกต่างกัน บ้างก็ว่าน่าจะสืบเนื่องมาการเสวยพระชาติเป็นปลาตะเพียนเพื่อการสั่งสมบุญ บารมีของพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่ง บ้างก็ว่าเนื่องด้วยปลาตะเพียนเป็นสัตว์น้ำที่หากินคล่องแคล่ว กินอาหารง่าย ปราดเปรียวกว่าปลาประเภทอื่น บ้างก็ว่าชื่อของปลาตะเพียนนั้น คำว่า “เพียน” ซึ่งเป็นคำท้ายนั้นออกเสียงคล้ายกับคำว่า “เพียร” ซึ่งหมายถึงความขยันหมั่นเพียร ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และรวมไปถึงการขยันทำมาหากินอีกด้วย แต่ไม่ว่าปลาตะเพียนจะมีกำเนิดมาจากความเชื่อใดก็ตาม ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านได้บรรจงสร้างสรรค์ปลาตะเพียนขึ้นมาเป็นเครื่องราง ที่เราได้รู้จักกันทุกวันนี้
โดยใช้วัสดุประเภทต่าง ๆ ที่หาได้สะดวกในช่วงเวลานั้น แต่จะต้องถูกต้องตามตำราบังคับและเมื่อพิจารณาตัวปลาตะเพียนจะต้องมีลักษณะ สมส่วนและดูมีชีวิตจริง ๆ รวมไปถึงจะต้องมีการอาการพลิ้วไหวเหมือนกำลังแหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำ ส่วนที่ขาดไม่ได้คือจะต้องมีการสร้างเป็นคู่เสมอ ดังที่โบราณเรียกว่า “ปลาตะเพียนเงิน ปลาตะเพียนทอง” ซึ่งมีความหมายแฝงถึงความเจริญก้าวหน้าเหมือนปลาที่สืบสายพันธุ์ต่อไปไม่มี วันหมด และยังหมายรวมไปถึงการครองชีวิตร่วมกันอย่างผาสุก (สำหรับคู่แต่งงาน) แต่ก็ยังมีอีกหลายท่านก็ยังมีความเข้าใจผิดว่าตัวหนึ่งเป็นตัวผู้ อีกตัวหนึ่งเป็นตัวเมียจนถึงปัจจุบัน
หลังจากได้รูปร่างของปลาตะเพียนมาเรียบร้อยแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านจะลงยันต์บ้าง อักขระบ้าง หรือหัวใจพระคาถาต่าง ๆ กำกับลงบนตัวปลาพร้อมกับปลุกเสกด้วยมนต์ต่าง ๆ ตามตำราบังคับจนปลาตะเพียนนั้นมีอาการขยับเขยื้อนเหมือนมีชีวิตจึงเป็นอัน เสร็จพิธี ซึ่งหากเป็นปลาตะเพียนยุคหลัง ๆ จะนิยมใช้การปั๊มอักขระยันต์ต่าง ๆ ลงไปที่ตัวปลาตะเพียนที่เป็นจัดสร้างด้วยเนื้อโลหะแทน เช่น ทองเหลือง ตะกั่ว ทองแดง เพราะประหยัดเวลาและดูสวยงาม แต่ในบางสำนักก็นิยมใช้การพิมพ์ตัวปลาตะเพียนพร้อมอักขระยันต์ต่าง ๆ ลงในผ้าก็มี แต่ไม่ว่าจะจัดสร้างด้วยวัสดุประเภทใดก็ตาม อักขระยันต์หรือบรรดาหัวใจพระคาถาต่าง ๆ ที่บรรจุลงบนตัวปลาตะเพียน ตลอดจนพิธีการปลุกเสกจะต้องถูกต้องตามตำราบังคับเท่านั้น มิเช่นนั้นจะถือว่า “วิบัติ” (ไม่สำเร็จตามความประสงค์) และการสร้างปลาตะเพียนในคราวนั้นจะถือว่า “หมด” (ใช้ไม่ได้) หากยังฝืนนำไปใช้หรือออกให้บูชาจะถือว่า “ผิดครู” อันเป็นการลบหลู่ครูบาอาจารย์และจะเป็นกรรมหนักเช่นกัน ในเรื่องของพระคาถา อักขระยันต์ที่มาการลงที่ตัวปลาตะเพียนนั้น มีอยู่ด้วยกันหลากหลายแบบ ตามตำราของครูบาอาจารย์แต่ละรูปที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมาแต่ส่วนมากจะเป็น หัวใจพระคาถาที่มีอานิสงส์ทางลาภสักการะ เมตตา มหานิยม อาทิ
..นะชาลีติ (หัวใจพระสีวลี)
..นาสังสิโม (หัวใจพญาเต่าเลือน)
..อุอากะสะ (หัวใจมหาเศรษฐี)
นอกจากนั้นในปลาตะเพียนบางสำนักยังมีการลงอักขระยันต์ที่แตกต่างกันไป อาทิ นะมะพะทะ (ตั้งธาตุทั้ง 4) ยันต์ตรีนิสิงเห (เมตตา โชคลาภ) เป็นต้น ในเรื่องของจำนวนการสร้างในแต่วาระนั้นแต่โบราณมาเราจะพบว่า ส่วนใหญ่ครูบาอาจารย์จะจัดสร้างคราวละไม่มาก (ไม่ถึง 10 คู่ต่อครั้งก็มี) และมักจะแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์ที่เลื่อมใสจนหมดแล้วจึงสร้างใหม่ บางรูปจัดสร้างปีละวาระเดียวก็เดียว บางรูปจัดสร้างเพียงครั้งเดียวก็มี
....สำหรับสำนักที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เกี่ยวกับปลาตะเพียนตั้งแต่โบราณที่มีการบันทึกกันไว้ เช่น
..หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ (สร้างน้อยมาก)
..หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก (หาชมตัวจริงยาก)
..หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม เป็นต้น
แต่ไม่ว่าจะเป็นของสำนักใดปัจจุบันก็หาตัวจริงยากแล้วครับ ส่วนใหญ่จะเป็นของเก๊เก่าบ้าง ของเก๊ใหม่บ้าง ยัดวัดยัดอาจารย์กันซะมาก เหตุเพราะแต่ละสำนักจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันซึ่งผู้ที่ศึกษาและสะสมจะ ต้องเข้าใจและแยกแยะให้ออก อีกเหตุผลหนึ่งก็คือหากเป็นของครูบาอาจารย์ชื่อดัง ๆ เช่น หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อจง จะจำหน่ายได้รวดเร็วเพราะมีคนศรัทธาค่อนข้างมาก ในเรื่องของเคล็ดบูชาปลาตะเพียนให้ประสิทธิเม (เห็นผลจริงตามนั้น)
....จำเป็นจะต้องศึกษากันด้วยครับว่ามีวิธีอย่างไร บางสำนักจะกำกับมาแต่เดิม เช่นต้องสวดบทไหน ต้องถวายอะไร แต่บางสำนักก็ไม่มีขอให้ระลึกถึงพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ผู้สร้าง ส่วนในเรื่องการบูชาให้ถูกต้องและเหมาะสมแต่ละสำนักจะคล้าย ๆ กันซึ่งขอสรุปเป็นแนวทางคร่าว ๆ ให้ลองนำไปปฏิบัติกันดังนี้ • กรณีเป็นแบบลอยองค์ขนาดเล็ก นิยมพกติดตัว เช่นของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ • กรณีเป็นแบบแขวน ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กขอให้แขวนไว้บนเพดานหรือในที่สูงเพื่อให้ปลาตะเพียน สามารถหมุนรอบตัวเองได้ไม่ติดหรือชนกันเอง หากเป็นร้านค้าให้หันหน้าปลาตะเพียนออกไปทางหน้าร้าน เช่นของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก • กรณีเป็นผ้า ให้แขวนไว้บนเพดานเวลาลมพัดผ้าจะพลิ้วไปตามแรงลม แต่ถ้าไม่สะดวกก็พับและตั้งบูชาได้เช่นกัน หากเป็นร้านค้าให้แขวนไว้บนเพดานและให้หันด้านที่เป็นปลาตะเพียนออกไปทาง หน้าร้าน ในกรณีที่บางสำนักทำเป็นผ้าสองผืนคือผืนหนึ่งเป็นปลาตะเพียนเงิน อีกผืนหนึ่งเป็นปลาตะเพียนทอง ก็จำมาแขวนไว้คู่กัน
สนใจขอรูปภาพเพิ่มเติม ติดต่อ Line id : eaw555
ผู้เข้าชม
79 ครั้ง
ราคา
9500
สถานะ
มาใหม่
โดย
เอี่ยวเสรีไทย
ชื่อร้าน
เอี่ยว พชร
ร้านค้า
eawsirithai.99wat.com
โทรศัพท์
023775251
ไอดีไลน์
eaw555
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
160-2-604xx-x762-0-459xx-x
นางกำแพง ลูกแป้งเดี่ยว กรุวัดพ
พระนางกำแพงลูกแป้งคู่ กรุทุ่งเ
เหรียญหล่อพระประจำวันปางป่าเล
พระนารายณ์ทรงปืน กรุเตาทุเรียง
ลิงหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัวฉะเชิง
พระพุทธพิมพ์มะอะอุ หลวงปู่ทอง
พระขรัวอีโต้ กรุวัดราชบูรณะ กท
พระกรุวัดอัมพวา พิมพ์วัดพลับ
พระอู่ทองฐานผ้าทิพย์ กรุวัดมเ
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
ศิษย์บูรพา
patcharee88
PUNPRA
chathanumaan
ภูมิ IR
เจริญสุข
ep8600
ปลั๊ก ปทุมธานี
TotoTato
fuchoo18
termboon
ประชา สันติ
kuakran
เนินพระ99
trairat
legallaw
อาร์ตกำแพงเพชร
แมวดำ99
บ้านพระสมเด็จ
เทพจิระ
greenpizza
kaew กจ.
ยอด วัดโพธิ์
Leksoi8
บูม บางปู
โกหมู
varavet
bruceAmulets
PCRP
บ้านพระหลักร้อย
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1568 คน
เพิ่มข้อมูล
ปลาตะเพียนหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
ปลาตะเพียนหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
รายละเอียด
เน้นในด้านโภคทรัพย์ คือค้าขายเจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา อยู่เย็นเป็นสุข เมตตามหานิยม เมื่อสมัยก่อนทุกบ้านเรือนร้านค้าส่วนมากจะมีปลาตะเพียนของหลวงพ่อจงติดอยู่ แทบทุกบ้าน ปัจจุบันหาชมได้ยากแล้วครับ
ปลาตะเพียน ตามความเชื่อแต่โบราณเกี่ยวกับเครื่องรางที่บูชาแล้วให้ผลเรื่องการค้า ขาย โชคลาภ เงินทอง นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด อาทิ ไซดักทรัพย์ กุมารทอง นางกวัก ซึ่งปลาตะเพียนนั้นก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แต่การกำเนิดของปลาตะเพียนว่าเกิดขึ้นเมื่อใดยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่เชื่อกันว่ามีมาแล้วหลายร้อยปีแล้วเพราะมีการค้นพบปลาตะเพียนโบราณที่ทำ ด้วยวัสดุหลากหลายชนิด อาทิ ผ้า ไม้มงคล ไม้จักสาน โลหะ และหลากหลายขนาดขึ้นอยู่กับครูบาอาจารย์แต่ละท่านที่จะจัดสร้างขึ้นในวาระ นั้น ๆ
ส่วนในเรื่องความนิยมเครื่องรางที่เป็นปลาตะเพียนนั้นจะไม่หวือหวาเหมือน เครื่องรางประเภทอื่น ๆ เนื่องจากเป็นเครื่องรางที่ดูผิวเผินแล้วเหมือนกับไม่มีอะไร ไม่มีฤทธิ์หวือวา แต่ในความเป็นจริงปลาตะเพียนจะมีฤทธิ์มีเดชแบบค่อยเป็นค่อยไปดังภาษิตที่ว่า “น้ำซึมบ่อทราย” แล้วยังให้พุทธคุณในเรื่องความร่มเย็นเป็นสุข ช่วยพยุงและเสริมฐานะค่อยเป็นค่อยไปแก่ผู้บูชาด้วย ซึ่งหาได้ยากในหมู่เครื่องรางด้วยกัน แต่หากจะสืบเสาะเลาะลึกลง
ในความเชื่อเรื่องการกำเนิดของปลาตะเพียนนั้นก็ จะมีความเชื่อที่แตกต่างกัน บ้างก็ว่าน่าจะสืบเนื่องมาการเสวยพระชาติเป็นปลาตะเพียนเพื่อการสั่งสมบุญ บารมีของพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่ง บ้างก็ว่าเนื่องด้วยปลาตะเพียนเป็นสัตว์น้ำที่หากินคล่องแคล่ว กินอาหารง่าย ปราดเปรียวกว่าปลาประเภทอื่น บ้างก็ว่าชื่อของปลาตะเพียนนั้น คำว่า “เพียน” ซึ่งเป็นคำท้ายนั้นออกเสียงคล้ายกับคำว่า “เพียร” ซึ่งหมายถึงความขยันหมั่นเพียร ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และรวมไปถึงการขยันทำมาหากินอีกด้วย แต่ไม่ว่าปลาตะเพียนจะมีกำเนิดมาจากความเชื่อใดก็ตาม ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านได้บรรจงสร้างสรรค์ปลาตะเพียนขึ้นมาเป็นเครื่องราง ที่เราได้รู้จักกันทุกวันนี้
โดยใช้วัสดุประเภทต่าง ๆ ที่หาได้สะดวกในช่วงเวลานั้น แต่จะต้องถูกต้องตามตำราบังคับและเมื่อพิจารณาตัวปลาตะเพียนจะต้องมีลักษณะ สมส่วนและดูมีชีวิตจริง ๆ รวมไปถึงจะต้องมีการอาการพลิ้วไหวเหมือนกำลังแหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำ ส่วนที่ขาดไม่ได้คือจะต้องมีการสร้างเป็นคู่เสมอ ดังที่โบราณเรียกว่า “ปลาตะเพียนเงิน ปลาตะเพียนทอง” ซึ่งมีความหมายแฝงถึงความเจริญก้าวหน้าเหมือนปลาที่สืบสายพันธุ์ต่อไปไม่มี วันหมด และยังหมายรวมไปถึงการครองชีวิตร่วมกันอย่างผาสุก (สำหรับคู่แต่งงาน) แต่ก็ยังมีอีกหลายท่านก็ยังมีความเข้าใจผิดว่าตัวหนึ่งเป็นตัวผู้ อีกตัวหนึ่งเป็นตัวเมียจนถึงปัจจุบัน
หลังจากได้รูปร่างของปลาตะเพียนมาเรียบร้อยแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านจะลงยันต์บ้าง อักขระบ้าง หรือหัวใจพระคาถาต่าง ๆ กำกับลงบนตัวปลาพร้อมกับปลุกเสกด้วยมนต์ต่าง ๆ ตามตำราบังคับจนปลาตะเพียนนั้นมีอาการขยับเขยื้อนเหมือนมีชีวิตจึงเป็นอัน เสร็จพิธี ซึ่งหากเป็นปลาตะเพียนยุคหลัง ๆ จะนิยมใช้การปั๊มอักขระยันต์ต่าง ๆ ลงไปที่ตัวปลาตะเพียนที่เป็นจัดสร้างด้วยเนื้อโลหะแทน เช่น ทองเหลือง ตะกั่ว ทองแดง เพราะประหยัดเวลาและดูสวยงาม แต่ในบางสำนักก็นิยมใช้การพิมพ์ตัวปลาตะเพียนพร้อมอักขระยันต์ต่าง ๆ ลงในผ้าก็มี แต่ไม่ว่าจะจัดสร้างด้วยวัสดุประเภทใดก็ตาม อักขระยันต์หรือบรรดาหัวใจพระคาถาต่าง ๆ ที่บรรจุลงบนตัวปลาตะเพียน ตลอดจนพิธีการปลุกเสกจะต้องถูกต้องตามตำราบังคับเท่านั้น มิเช่นนั้นจะถือว่า “วิบัติ” (ไม่สำเร็จตามความประสงค์) และการสร้างปลาตะเพียนในคราวนั้นจะถือว่า “หมด” (ใช้ไม่ได้) หากยังฝืนนำไปใช้หรือออกให้บูชาจะถือว่า “ผิดครู” อันเป็นการลบหลู่ครูบาอาจารย์และจะเป็นกรรมหนักเช่นกัน ในเรื่องของพระคาถา อักขระยันต์ที่มาการลงที่ตัวปลาตะเพียนนั้น มีอยู่ด้วยกันหลากหลายแบบ ตามตำราของครูบาอาจารย์แต่ละรูปที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมาแต่ส่วนมากจะเป็น หัวใจพระคาถาที่มีอานิสงส์ทางลาภสักการะ เมตตา มหานิยม อาทิ
..นะชาลีติ (หัวใจพระสีวลี)
..นาสังสิโม (หัวใจพญาเต่าเลือน)
..อุอากะสะ (หัวใจมหาเศรษฐี)
นอกจากนั้นในปลาตะเพียนบางสำนักยังมีการลงอักขระยันต์ที่แตกต่างกันไป อาทิ นะมะพะทะ (ตั้งธาตุทั้ง 4) ยันต์ตรีนิสิงเห (เมตตา โชคลาภ) เป็นต้น ในเรื่องของจำนวนการสร้างในแต่วาระนั้นแต่โบราณมาเราจะพบว่า ส่วนใหญ่ครูบาอาจารย์จะจัดสร้างคราวละไม่มาก (ไม่ถึง 10 คู่ต่อครั้งก็มี) และมักจะแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์ที่เลื่อมใสจนหมดแล้วจึงสร้างใหม่ บางรูปจัดสร้างปีละวาระเดียวก็เดียว บางรูปจัดสร้างเพียงครั้งเดียวก็มี
....สำหรับสำนักที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เกี่ยวกับปลาตะเพียนตั้งแต่โบราณที่มีการบันทึกกันไว้ เช่น
..หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ (สร้างน้อยมาก)
..หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก (หาชมตัวจริงยาก)
..หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม เป็นต้น
แต่ไม่ว่าจะเป็นของสำนักใดปัจจุบันก็หาตัวจริงยากแล้วครับ ส่วนใหญ่จะเป็นของเก๊เก่าบ้าง ของเก๊ใหม่บ้าง ยัดวัดยัดอาจารย์กันซะมาก เหตุเพราะแต่ละสำนักจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันซึ่งผู้ที่ศึกษาและสะสมจะ ต้องเข้าใจและแยกแยะให้ออก อีกเหตุผลหนึ่งก็คือหากเป็นของครูบาอาจารย์ชื่อดัง ๆ เช่น หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อจง จะจำหน่ายได้รวดเร็วเพราะมีคนศรัทธาค่อนข้างมาก ในเรื่องของเคล็ดบูชาปลาตะเพียนให้ประสิทธิเม (เห็นผลจริงตามนั้น)
....จำเป็นจะต้องศึกษากันด้วยครับว่ามีวิธีอย่างไร บางสำนักจะกำกับมาแต่เดิม เช่นต้องสวดบทไหน ต้องถวายอะไร แต่บางสำนักก็ไม่มีขอให้ระลึกถึงพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ผู้สร้าง ส่วนในเรื่องการบูชาให้ถูกต้องและเหมาะสมแต่ละสำนักจะคล้าย ๆ กันซึ่งขอสรุปเป็นแนวทางคร่าว ๆ ให้ลองนำไปปฏิบัติกันดังนี้ • กรณีเป็นแบบลอยองค์ขนาดเล็ก นิยมพกติดตัว เช่นของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ • กรณีเป็นแบบแขวน ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กขอให้แขวนไว้บนเพดานหรือในที่สูงเพื่อให้ปลาตะเพียน สามารถหมุนรอบตัวเองได้ไม่ติดหรือชนกันเอง หากเป็นร้านค้าให้หันหน้าปลาตะเพียนออกไปทางหน้าร้าน เช่นของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก • กรณีเป็นผ้า ให้แขวนไว้บนเพดานเวลาลมพัดผ้าจะพลิ้วไปตามแรงลม แต่ถ้าไม่สะดวกก็พับและตั้งบูชาได้เช่นกัน หากเป็นร้านค้าให้แขวนไว้บนเพดานและให้หันด้านที่เป็นปลาตะเพียนออกไปทาง หน้าร้าน ในกรณีที่บางสำนักทำเป็นผ้าสองผืนคือผืนหนึ่งเป็นปลาตะเพียนเงิน อีกผืนหนึ่งเป็นปลาตะเพียนทอง ก็จำมาแขวนไว้คู่กัน
สนใจขอรูปภาพเพิ่มเติม ติดต่อ Line id : eaw555
ราคาปัจจุบัน
9500
จำนวนผู้เข้าชม
80 ครั้ง
สถานะ
มาใหม่
โดย
เอี่ยวเสรีไทย
ชื่อร้าน
เอี่ยว พชร
URL
http://www.eawsirithai.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
023775251
ID LINE
eaw555
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 160-2-604xx-x
4. ธนาคารกรุงไทย / 762-0-459xx-x
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี